ขบวนขันหมากเป็นขบวนสินสอดทองหมั้นและอาหารคาวหวาน ที่ฝ่ายชายเป็นผู้จัดเพื่อนำมามอบให้กับฝ่ายหญิงในวันสู่ขอและวันแต่งงาน ซึ่งในสมัยก่อนพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานจะกระทำกันคนละวัน ดังนั้น จึงต้องจัดขบวนขันหมากถึงสองครั้ง คือ “ขั้นหมากหมั้น” และ “ขันหมากแต่งงาน” แต่ในปัจจุบันนิยมจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานให้เสร็จภายในวันเดียว ขบวนขันหมากจึงเหลือเพียงขบวนเดียวเท่านั้น ซึ่งในขบวนจะแบ่งออกเป็น “ขันหมากเอก” และ “ขันหมากโท” ติดตามด้วยเหล่าบริวารขันหมาก
ขันหมากเอก มีทั้งที่จัดเป็นขันหมากเดี่ยวและขันหมากคู่แล้วแต่ประเพณีนิยมของแต่ละท้องถิ่น
พานขันหมาก นิยมใช้เป็นขันเงินหรือขันทองมีพานรองใช้ถุงผ้าที่ทอจากดิ้นเงิน-ดิ้นทองคลุม บนขันหมากบรรจุหมากดิบ 8 ผล ที่จัดติดกันทั้งหมด หรือจัดเป็นคู่ 2 ผลติดกัน 4 คู่ก็ได้ และมีใบพลู 4 เรียง แต่ละเรียงมี 8 ใบ และยังมีถุงเงิน-ถุงทองใส่ถั่ว งา ข้าวตอก ข้าวเปลือก ส่วนใบเงิน ใบทองใบนากที่บรรจุมาด้วย มักจะใช้รองกันไว้ด้านล่าง
ส่วนพานสินสอดในปัจจุบันมีการแยกเป็นหลายพาน อย่างพานเงิน พานทอง พานแหวน ต้นอ้อย หรือมัดอ้อย 2 ต้นหรือ 2 มัด ต้นกล้วย หรือหน่อกล้วย 2 หน่อ
หากเป็นพิธีหมั้นเพียงอย่างเดียวโดยยังไม่มีพิธีแต่งงาน การแห่ขันหมากจะมีพานขันหมาก และพานขันหมั้นซึ่งคล้ายคลึงกับพานสินสอด แต่สินสอดจะใช้ในพิธีแต่งงานเช่นเดียวกับต้นกล้วยต้นอ้อย สำหรับพานขันหมั้นในพิธีหมั้นนั้น จะใส่พวกของที่จะนำไปหมั้น อย่างหวานหมั้น เงิน ทอง เพชร อัญมณีมีค่า หรือของอื่นตามที่ตกลงกัน ในปัจจุบันมีการจัดของหมั้นแยกเป็นหลายพานเพื่อความสวยงามตามแบบดั้งเดิม ของหมั้นทั้งหมดจะจัดวางมาในพานเดียวและไม่ต้องนับ ซึ่งแตกต่างจากการนับสินสอดแต่งงาน
ต้นกล้วยต้นอ้อยที่ใช้ในขบวนขันหมากแต่งงานนั้น มีความหมายในทางมงคลก็คือ อ้อยหมายถึงความหวาน ส่วนหน่อกล้วยหมายถึงความเจริญงอกงาม การขุดต้องให้ติดรากหรือมีตาและเลือกเอาต้นหรือหน่อที่สมบูรณ์ โดยชุดมาเป็นคู่ นำมาประดับตกแต่งด้วยกระดาษสีให้ดูสวยงามซึ่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องทำการปลูกร่วมกันคล้ายกับเป็นการเสี่ยงพายอย่างหนึ่ง ซึ่งหากต้นกล้วยเจริญเติบโตออกดอกออกผลสมบูรณ์ และต้นอ้อยเติบโตหอมหวาน เชื่อกันว่าความรักของหนุ่มสาวคู่นี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง ความรักจะสดชื่นหอมหวานอยู่มิรู้คลาย ฐานะความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจก็สมบูรณ์พูนสุข
เมื่อคนของฝ่ายเจ้าบ่าวยกขบวนขันหมากมาถึงบ้านฝ่ายเจ้าสาวแล้ว จะไม่ยอมมอบต้นกล้วยต้นอ้อยให้โดยง่ายอาจถือหรืออุ้มถ่วงเอาไว้จนกว่าจะได้น้ำมารดเพื่อความเจริญงอกงาม บางทีก็ใช้น้ำมนต์หรือน้ำฝนสะอาด แต่น้ำที่ผู้อุ้มต้องการมากที่สุดคือสุรา ดังนั้นในวันยกขันหมากพวกคอสุราจะจับจองหรือขออาสาเป็นคนอุ้มต้นกล้วยต้นอ้อยเพราะนอกจากจะได้น้ำอมฤตแล้ว ยังได้พูดจาหยอกเย้าต่อรองกับคนของฝ่ายเจ้าสาวเป็นที่สนุกสนานครื้นเครง
นอกจากนี้ในพิธีแต่งงานยังต้องมีขันหมากโท และพานธูปเทียนแพที่จะใช้ตอนรับไหว้ โดยจะแห่มาในขบวนขันหมากหรือไม่ก็ได้ เวลายกขบวนแห่ขันหมากจะมีคนถือเป็นคู่ๆ ดูสวยงาม และเป็นมงคลโดยถือเคล็ดจากคำว่า “คู่” เมื่อขบวนขันหมากมาถึงจะมีผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงมารับและมีเด็กถือพานเชิญขันหมากที่เตรียมเอาไว้มาเชิญฝ่ายชายเข้าบ้าน โดยยังไม่รับขันหมากแต่ให้ผู้ที่เชิญขันหมากนำไปวางตรงที่ทำพิธี และในขณะที่ขบวนขั้นหมากผ่านเข้าบ้างจะมีการกั้นประตูเงิน ทอง นาก ที่ฝ่ายเจ้าบ่าวต้องเจรจาขอผ่านประตูด้วย
ขันหมากโท จัดเป็นบริเวณของขันหมากเอก จะเป็นพวกขนมและผลไม้ นิยมจัดให้ได้อย่างน้อย 9 อย่าง อย่างละ 1 คู่ เพราะถือเคล็ดคำว่า “ก้าวหน้า” และคำว่า “คู่” โดยจะเลือกจากขนมที่มีลักษณะงดงาม และมีชื่อที่เป็นมงคลมีความหมายที่เจริญรุ่งเรือง อย่างขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน ทองเอก เสน่ห์จันทน์ จ่ามงกุฎ ขนมถ้วยฟู ขนมขั้น ขนมมงคลนี้สามารถจัดรวมกันมาในถาดเดียว
นอกจากนี้บริวารขันหมาก ยังตองมีเครื่องเช่นไหว้บรรพบุรุษ ได้แก่อาหารที่ยังไม่ได้ปรุงอย่าง ไก่ต้ม 2 ตัว หรือ 1 คู่ หมูนอนตอง 2 ถาด และเหล้าขาว 2 คู่ ผลไม้มีมะพร้าวอ่อนปอกเปลือก 2 ผล กล้วยน้ำว้า 2 หวี และส้มโอ 2 ผล มีการนำกระดาษแดงมาแปะหรือประดับให้สวยงาม รวมทั้งมีผ้าขาว 1 พับความยาวประมาณ 4 ศอก หรือ 2 เมตร การเช่นไหว้จะทำพิธีกลางแจ้งโดยใช้ผ้าขาวปู จุดธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม อาหารที่ใช้เช่นไหว้เมื่อเสร็จพิธีแล้วจะนำไปแจกจ่ายกันต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ของที่อยู่ในขันหมากโท
ของที่อยู่ในขันหมากโท ซึ่งถือกันว่าเป็น บริวารขันหมาก ได้แก่
ไก่ต้ม ๒ ตัวหรือ ๑ คู่
หมู ๒ ถาด
ต้นอ้อยหรือมัดอ้อย ๒ ต้นหรือ ๒ มัด
ต้นกล้วยหรือหน่อกล้วย ๒ หน่อ
มะพร้าวอ่อนที่ปอกเปลือกแล้ว ๒ ผล
กล้วยน้ำว้า ๒ หวี
ส้มโอ ๒ ผล
เหล้า ๒ คู่
ขนมต่าง ๆ จำนวนไม่จำกัด แต่ต้องจัดเป็นคู่ ๆเครื่องบริวารขันหมาก นิยมจัดให้ได้อย่างน้อย ๙ อย่าง ซึ่งไม่ได้กำหนดแน่นอนลงไปว่า
ต้องใช้อะไรบ้าง สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ต้นกล้วย ต้นอ้อย เพราะต้องให้คู่บ่าวสาวร่วมกับปลูก
นอกจากนั้นให้จัดหา ตามแต่จะได้รับ การบอกกล่าวจากผู้ใหญ่หรือท่านผู้รู้แต่ไม่ควรต่ำว่า ๙ อย่าง
เพราะถือเคล็ดคำว่าก้าวหน้า ในการยกขบวนขันหมาก ในสมัยโบราณ จะมีเตียบร่วมอยู่ในจำพวกขันหมากเอกด้วย
เตียบ คือตะลุ่มที่มีปากผายและมีฝาครอบปาก ทำจากไม้ไผ่สาน เป็นภาชนะใส่ของชนิดหนึ่ง
หากทำอย่างดีจะลงรักและฝังมุกด้วย ใช้เป็นเครื่องใส่ของกิน อย่างภาชนะสำหรับใส่กับข้าวของผู้ดีสมัยก่อน
ในขบวนขันหมาก ใช้เตียบ ๒ คู่ ผู้อุ้มคือหญิงผู้มีตระกูลหรือสุภาพสตรี ๔ คน นิยมใช้หญิงที่แต่งงานมีสามี
และสามียังมีชีวิตอยู่ ของที่บรรจุในเตียบคือ สุรา ไก่ย่าง ขนมจีนน้ำยาและห่อหมกปลา
มะพร้าวอ่อน ส้มและกล้วย ขนมชะมด ขนมกง ฯลฯ ในแต่ละตำรา มีการจัดไม่เหมือนกันแต่ต้องมีผ้า
สำหรับเช็ดปาก และผ้าผืนงาม ๆ คลุมเตียบไว้ด้วย
ในปัจจุบันนี้หากเป็นท้องถิ่น ที่ยังรักษาประเพณีแบบโบราณก็จะมีการ
ยกเตียบ หรืออุ้มเตียบไปใน ขบวนขันหมาก ด้วย ความเชื่ออีกอย่าง
เกี่ยวกับการยกขบวนขันหมาก คือ ไม่นิยมให้หญิงที่เป็นหม้าย และแม่ร้าง หรือสาวแก่ที่ ไม่ได้แต่งงาน
มาร่วมยกของในขบวนขันหมาก สำหรับผู้ที่ทำหน้าที่อุ้มเตียบนั้น เมื่อรับเตียบจาก เฒ่าแก่
หรือผู้มีหน้าที่จัดขันหมากแล้ว ห้ามวางโดยเด็ดขาด จะต้องยกหรืออุ้มเอาไว้
จนกว่าจะไปถึงบ้าน ฝ่ายเจ้าสาว ผู้อุ้มเตียบและขันหมาก รวมทั้งบริวารขันหมากต่าง ๆ
จะได้ซองหรือของแถมพก เป็นรางวัล โดยถ้วนหน้ากัน หรือได้เป็นขนม ของใช้ต่าง ๆ
แล้วแต่ความนิยมในท้องถิ่น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก