หมวดหมู่สินค้า

พระเครื่อง

ขายแล้ว.........พระบูชาหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี หน้าตัก 4 นิ้ว ปี31

ขายแล้ว.........พระบูชาหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี หน้าตัก 4 นิ้ว ปี31

ยี่ห้อ :

พระบูชาหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี หน้าตัก 4 นิ้ว ปี31

สภาพสินค้า :

สินค้ามือสอง

ราคา :

9,999.00

บาท

วันที่เริ่ม :

19 เม.ย. 2553 16:08:23

วันที่อัพเดท :

15 ก.ย. 2553 17:39:58

ip :

58.8.190.1xx

ปิดการขายสินค้า

ข้อมูลร้าน

ชื่อผู้ขาย :

-

จังหวัด :

-

จำนวนสินค้า :

0 ชิ้น

คนเข้าชม :

-

อัพเดทร้าน :

-

เปิดร้าน :

-

shop free

รายละเอียดสินค้า

พระบูชาหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี หน้าตัก 4 นิ้ว ปี31 หลวงพ่อทอง เป็นพระพุทธรูปสำคัญของจังหวัดเพชรบุรีที่ประชาชนคนไทยเคารพเชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์ พุทธลักษณะ ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ วัสดุสัมฤทธิ์ปิดทอง ขนาดหน้าตักกว้าง ๒๑ นิ้ว สูง ๒๙ นิ้ว ศิลปะเชียงแสน ยังไม่ทราบว่าเป็นพระพุทธรูปหล่อหรือรูปปั้น เพราะปัจจุบันปิดทองที่องค์พระพุทธรูปองค์จริงเป็นทองคำหรือทองสัมฤทธิ์ จากนิราศสุนทรภู่ มีความว่า 'ไปครู่หนึ่งถึงเขาตะเคราสวาท มีอาวาสวัดวามหาเถร มะพร้าวรอบขอบที่บริเวณ พอจวนพลพักร้อนผ่อนสำราญ กับหนูพัดจัดธูปเทียนดอกไม้ ขึ้นไปไหว้พระสัมฤทธิ์พิษฐาน เขานับถือลือมาแต่บุราณ ใครบนบานพระก็รับช่วยดับร้อน...' คนโบราณเกรงจะสูญหายจึงทำองค์ใหญ่หุ้มไว้อีกชั้นหนึ่ง ดังที่ปรากฏตามประวัติดั้งเดิมของหลวงพ่อวัดเขาตะเครา ที่เล่ากันสืบมานั้น ได้มีการเล่าเป็นนิยายปรำปราดังนี้ เล่ากันว่าเดิมทีเดียวนั้นมีพระสงฆ์สององค์ สามเณร ๑ องค์ เป็นพี่น้องกัน ซึ่งมีฤทธิ์เดชเวทย์มนต์แรงกล้ามากทั้งสามองค์ได้ทดลอง วิชากัน องค์ที่ทำน้ำมนต์ไว้สั่งองค์ที่สองว่าถ้ากระโดดลงไปในน้ำแล้วกลายเป็น พระพุทธรูปลอยขึ้นมาให้ใช้น้ำมนต์รดลงไปจึงจะกลับ เป็นสงฆ์ตามเดิม เมื่อองค์ที่กระโดดลงไปในน้ำนั้นและกลายเป็นพระพุทธรูปลอยขึ้นมาจริงๆ แล้ว องค์ที่ ๒ ไม่รดน้ำมนต์และว่าเมื่อ พี่ทำได้ตนก็ทำได้ องค์ที่ ๒ จึงสั่งองค์ที่ ๓ ที่เป็นเณรว่าถ้ากระโดดลงไปและกลายเป็นพระพุทธรูปขึ้นมาแล้วให้ใช้น้ำมนต์รด แล้วองค์ ที่ ๒ ก็กระโดดลงไปในน้ำและกลายเป็นพระพุทธรูปลอยขึ้นมาอีก องค์ที่ ๓ ที่เป็นเณรเห็นดังนั้นก็ว่าพี่ๆ ทำได้ตนก็ทำได้จึงกระโดด ลงไปบ้าง ก็กลายเป็นพระพุทธรูปลอยขึ้นมาเมื่อไม่มีองค์ใดเอาน้ำมนต์ลง เช่นนี้จึงกลายเป็นพระพุทธรูปลอยน้ำเช่นนั้น เมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๐๒ สมัยปลายกรุงศรีอยุธยาก่อนเสียกรุงต่อพม่า ชาวบ้านเพชรจังหวัดเพชรบุรีอพยพหนีพม่าไปตั้ง บ้านเรือน อยู่ที่ ปากคลองแม่กลองอำเภอเมืองสมุทรสงคราม เดิมชื่อวัดศรีจำปา ปัจจุบันเรียกวัดบ้านแหลม หรือวัดเพชรสมุทร ปัจจุบันวัดศรี จำปานี้เป็นวัดร้างเพราะทรุดโทรม ชาวบ้านแหลมอพยพไปอยู่ได้ช่วยกันบูรณะ ก่อสร้างใหม่แล้วให้ชื่อว่าวัดบ้านแหลมเป็นอนุสรณ์ ของชาวบ้านแหลมเป็นผู้สร้าง ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นวัดเพชรสมุทร วันหนึ่งชาวบ้านแหลมเหล่านี้ซึ่งมีอาชีพทางประมงออกไปเที่ยว หาปลาลากอวน ไปพบพระพุทธรูปยืนจึงนำพระพุทธรูปองค์ยืนไปประดิษฐานไว้ที่ ณ วัดบ้านแหลม(วัดศรีจำปา) ต่อมาชาวบ้านจึงเรียก ว่า 'หลวงพ่อวัดบ้านแหลม' ตามนามที่ได้พระพุทธรูปมา อีกองค์หนึ่งคือพระพุทธรูปนั่งได้มอบให้กับชาวบางตะบูน ซึ่งคงจะเป็นพรรค พวกหรือญาตพี่น้อง ชาวบางตะบูนจึงนำมาประดิษฐานไว้ ณ วัดเขาตะเครา และเรียกกันว่า 'หลวงพ่อวัดเขาตะเครา' จนปัจจุบันถ้าจะ นับแต่ปีที่นำมานั้นรวมได้มากกว่า ๒๑๓ ปี เมื่อกล่าวถึงหลวงพ่อ (พระพุทธรูป) แล้วก็ควรจะกล่าวถึงความเป็นมาของวัดด้วยว่าทำไมจึงได้ชื่อว่า 'เขาตะเครา' เขาตะเครานี้สันนิษฐานเอาว่ามีเจ้าสัวชาวจีนผู้หนึ่งมีความศรัทธามาก เมื่อได้พระพุทธรูปขึ้นมาประดิษฐานเป็นมิ่งขวัญแล้ว จึงสละ ทรัพย์สร้างเป็นวัดขึ้น โดยให้ลูกน้องคนหนึ่งไม่ปรากฏชื่อ คอยควบคุม ซึ่งเป็นชาวจีนเหมือนกัน จีนผู้ควบคุมนี้ไว้หนวดเครายาว เพราะเป็นที่นิยมของชาวจีนสมัยโน้น ชาวบ้านเห็นจีนไว้เครายาวดังนี้จึงเรียกวัดและเขาผนวกกันเข้าไปว่า 'วัดเขาจีนเครา' ต่อมาคำว่าจีนเป็นคำที่เรียกยากและไม่คุ้นหูของชาวบ้านในสมัยต่อมาจึง เปลี่ยน 'จีน' เป็น 'ตา' เพราะง่ายดีและเป็นชื่อที่เหมาะสม ของคนที่มีอายุ เรียกว่าภาษาพาไป เมื่อกาลนานมาภาษาคงจะกร่อนเข้า 'สระอา' เป็น 'สระอะ' และได้เปลี่ยน 'ตา' เป็น 'ตะ' เมื่อ สรุปได้แล้วได้ความตามนามปัจจุบันว่า 'วัดเขาตะเครา' วัดเขาเครา เป็นวัดเก่าแก่นานมากกว่า ๒๑๓ ปี ก็ย่อมจะต้องมีของดีของศักดิ์สิทธิ์ อยู่กับบ้างเป็นธรรมดาอภินิหารต่างๆ ที่คุณตา คุณ ยายคนเก่าคนแก่ที่นั่นเล่าให้ฟังก็มีหลายเรื่องหลายราว ปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์ หลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เล่าปรากฏการณ์โดย พระครูวชิรกิจโสภณ เจ้าอาวาสวัดเขาตะเครา เจ้าคณะอำเภอบ้านแหลม จ.เพชรบุรี ปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์ดัง กล่าวเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๒๗ ซึ่งเป็นวันเกิดของท่านพระครูฯ และได้มีการจัดงานฉลองฯ โดยคณะศิษย์ ซึ่งขณะนั้น อยู่ระหว่างสร้างมณฑป และถัดจากวันเกิดของท่านพระครูฯ อีก ๒ วัน คือ ในคืนวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๒๗ ขณะท่านพระครูฯ กำลัง จำวัด ได้นิมิต (ในฝัน) ว่าได้มีพระอาวุโสมากรูปหนึ่ง ได้นำถุงบรรจุทองคำยื่นให้กับท่านพระครูฯ และพระอาวุโสรูปนั้นได้พูดว่า “เอาไป” หลังจากนั้นพระอาวุโสมากรูปนั้นในนิมิตก็ได้จากไป...พอวันรุ่งขึ้นวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๒๗ ท่านพระครูฯ ได้เล่าความฝัน (ในนิมิต) ดังกล่าวให้กับพระลูกศิษย์ฟัง พระลูกศิษย์วัดเมื่อได้ยินความฝันตามที่ท่านพระครูฯ เล่าให้ฟังจบแล้ว ก็ได้พูดขึ้นว่าสงสัย ท่านพระครูฯ จะได้ลาภ(สักการะ) จากหมู่คณะผู้ศรัทธาฯ เป็นแน่ ต่อมาในวันศุกร์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีชวด ซึ่งเป็นวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๒๗ เวลาประมาณ ๒๑.๐๐ น.เศษ มีเณรลูกวัดรีบวิ่งมาบอก กับท่านพระครูฯ ว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในโบสถ์ ท่านพระครูฯ และเณรรูปนั้น จึงได้รีบพากันไปที่โบสถ์ และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นต่อ หน้าท่านพระครูฯ ขณะนั้นก็คือ ได้เกิดไฟไหม้ลุกท่วมองค์หลวงพ่อทอง และไฟได้ลุกลามไหม้ขึ้นบนยอดฉัตร และด้ายสายสิญจน์ที่โยง มาจากพระประธาน ในปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์ดังกล่าว ได้เห็นไฟที่กำลังลุกท่วมองค์หลวงพ่อทองเป็นประกายรัศมีออกมา ทองที่หุ้มองค์ท่านค่อยๆไหลหลุดลอกออกบางส่วน ดูน่าอัศจรรย์ และเมื่อนำทองที่ไหลลอกมาไปชั่งน้ำหนัก ปรากฎว่าได้ถึง ๙.๙ กิโล กรัม ทำให้ได้แลเห็นพระพักตร์ชัดเจนขึ้นมาบ้าง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีทองปิดหนามากจนองค์ท่านกลมทีเดียว!! ท่านพระครูฯ จึงได้นำ ก้อนทองคำดังกล่าวมาทำเป็นลูกอมทองไหล หลวงพ่อทอง ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปก้อนทองทรงกลมเนื้อเนียนแน่น และมีรูปถ่ายสีขาวดำ ของหลวงพ่อทองติดอยู่ในรูปทรงกลม หุ้มด้วยเรซิ่นสีเหลืองใสหล่อเป็นรูปดอกบัว ลูกอมทองไหลดังกล่าวได้เปิดออกให้ประชาชนผู้ ศรัทธาฯ เช่าบูชา ทำให้มีรายได้เข้าวัดเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านบาท ซึ่งรายได้ทั้งหมดได้นำไปสมทบสร้างมณฑป สร้างโรงเรียน เดินระบบน้ำประปา อีกทั้งสมทบสร้างศาลาเอนกประสงค์ ***หลวงพ่อเขาตะเครา ได้รับการเรียกขานนามใหม่คือ 'หลวงพ่อ(ทอง)เขาตะเครา' สาเหตุมาจากมีช่างภาพคนหนึ่งต้องการถ่ายภาพหลวงพ่อแต่ความที่องค์หลวงพ่อมีทองปิดทับอยู่หนามากจนแลไม่เห็นพุทธลักษณะ เดิมช่างภาพคนนี้จึงไปลอกผิวเปลวทองที่ติดหน้าพระพักตร์หลวงพ่อออกโดยมิได้บอกล่าวและขออนุญาต หลังจากนั้นไม่กี่วันช่างภาพ คนนี้ก็มีอาการหูตาบวมเป่ง จึงต้องมากราบขอขมาหลวงพ่อ อาการจึงหายไปจากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงไม่มีใครกล้าไปแตะต้องหลวง พ่อ จนกระทั่งทองปิดองค์ท่านทับถมกันมากขึ้นทุกวันๆ ทองที่ปิดองค์พระนั้นหนามาก จนทำให้ไม่เห็นองค์เดิมว่าเป็นพระพุทธรูป หล่อหรือปูนปั้น ชาวบ้านที่มานมัสการจึงเติมคำว่า'ทอง' ไปในการเรียกขาน จึงกลายมาเป็นหลวงพ่อ(ทอง)เขาตะเครา หมายเหตุ จากหนังสืออนุสรณ์ ผ้าป่า ๘๔,๐๐๐ กอง วัดเขาตะเครา เพชรบุรี และหนังสือหลวงพ่อวัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี

สินค้าใกล้เคียงในหมวด

พระเครื่อง

ร้านค้าออนไลน์ , ขายของออนไลน์

SiamShop.com ผู้ให้บริการด้าน ร้านค้าออนไลน์ เปิดร้านค้าออนไลน์

โดยทีมงานที่มีประสบการณ์การทำเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์กว่า 6 ปี
© Copyright 2024 All right reserved. SiamShop.com

ติดต่อเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ที่ [email protected]

เวลาทำการ : จ-ศ 8:30-17:30 น.