หมวดหมู่สินค้า

ร่วมทำบุญไถ่ชีวิต

ร่วมทำบุญไถ่ชีวิต

สภาพสินค้า :

สินค้ามือสอง

ราคา :

0.00

บาท

วันที่เริ่ม :

12 ก.ย. 2553 16:07:51

วันที่อัพเดท :

12 ก.ย. 2553 16:07:51

ip :

124.121.171.1xx

ปิดการขายสินค้า

ข้อมูลร้าน

ชื่อผู้ขาย :

-

จังหวัด :

-

จำนวนสินค้า :

0 ชิ้น

คนเข้าชม :

-

อัพเดทร้าน :

-

เปิดร้าน :

-

shop free

รายละเอียดสินค้า

สวัสดีค่ะ สำหรับท่านผู้มีจิตเมตตา ดิฉันอยากบอกบุญสำหรับ ผู้ที่มีจิตเมตตาอยากร่วมกับเราเพื่อทำบุญให้ชีวิต เริ่มจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2553 ที่ผ่านมา เจ้านายดิฉันท่านกำลังหาข้อมูลการไถ่ชีวิตโค-กระบือ ดิฉันเดินเข้าไปพบท่านพอดี ได้ฟังคำหนึ่งจากท่านจึง มีความคิดแว๊บเข้ามา ท่านบอกดิฉัน ประมาณว่า “การทำบุญไถ่ชีวิตสัตว์ใหญ่ เหมือนกับการแก้ไขวิบากกรรม ต่อชีวิตของผู้ที่ทำ” ท่านบอกว่าท่านจะซื้อ กระบือ 1 ตัว ราคา 15,000 บาทเพื่อปล่อยร่วมกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เค้ามีการทำกิจกรรมไถ่ชีวิตโค-กระบือ รุ้สึก กลุ่มนั้นจะไปปล่อยกันทางภาคตะวันออก ท่านบอกว่า “ทำไมไม่ทำกันบ้างล่ะ ลองรวบรวมเงินดูสิ เอาเท่าที่ได้ลองรวบรวมกันภายในบริษัทดู เอาเท่าที่ได้ ขาดเหลือเท่าไหร่ท่านจะช่วยให้ครบพอซื้อได้ 1 ตัว แล้วก็ไปร่วมปล่อย” หลังจากคุยกับท่านมา 1 วัน ดิฉันลองมานั่งคิดดู อันที่จริงเราก็อยากทำนะ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยได้สนใจกับมัน ก็เลยไม่ได้ใส่ใจกับโครงการไถ่ชีวิตต่างๆที่ผ่านเข้ามา อย่างมากเราก็แค่ร่วมบริจาคแต่ไม่เคยได้ทำตจากความตั้งใจจริงซักที พอมาคิดดูจึงรู้สึกไม่ค่อยดีกับตัวเองเท่าไหร่นัก จึงลองคุยกับสามีดู เราเลยตกลงกันว่า ที่จริงเราก็เป็นคนที่มีโอกาสทำ เราควรทำก่อนที่โอกาสนั้นจะผ่านไป ดิฉันจึงเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับ โครงการการไถ่ชีวิตโค-กระบือต่างๆ ได้อ่านไปเรื่อย จึงเริ่มเข้าใจ ที่จริงเราจะทำเองก็ทำได้แต่ต้องเข้าใจที่จะทำ เพราะจากการหาข้อมูลทาง Internet จึงได้รู้ว่ามีหลายคนตั้งใจทำ แต่ทำไม่เป็นก็ผิดพลาดได้ เหมือนว่าต้องการให้ชีวิตแต่ให้ไม่ถูกที่ถูกตัว จึงคิดว่าเราอยากทำ และทำให้ถูกต้อง เพราะดิฉันกับสามีเอง ก้รู้จักคนค่อนข้างเยอะ น่าจะรวบรวมทุนในการโครงการไถ่ชีวิต ได้ค่อนข้างเยอะ เราจึงเริ่มตั้งใจจริงจัง ว่าเราจะทำมันให้สำเร็จ โดย 1. เราศึกษาแล้วว่าการซื้อโค-กระบือเพื่อไถ่ชีวิตนั้นควรจะเป็นโค-กระบือที่สุขภาพแข็งแรง ได้รับการตรวจสุขภาพจากกรมปศุสัตว์ โดยที่จริงกรมปศุสัตว์มีโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ (ธคก.) โดยประชาชนทั่วไปสามารถไปซื้อโค-กระบือที่จะไถ่ชีวิตให้ได้ที่ โรงฆ่าสัตว์จังหวัดปทุมธานี และโรงฆ่าสัตว์จังหวัดอยุธยา เนื่องจาก โรงฆ่าสัตว์ทั้ง 2 แห่งนี้มีจำหน้าที่ของกรมปศุสัตว์อยู่และสามารถตรวจสุขภาพของโค-กระบือได้ทันที เพราะโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ (ธคก.) จะคัดเลือก โค-กระบือ ที่มีคุณภาพในช่วงวัยที่เหมาะสม เนื่องจากถ้าโค-กระบือเหล่านี้เมื่อเข้าร่วมโครงการแล้ว โครงการต้องกระจายโค-กระบือเหล่านี้เพื่อให้เกษตรกรยากจนได้ใช้งานจริง หรือหากเราจะซื้อจากโรงฆ่าสัตว์อื่นๆ เราก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์หรือสัตวแพทย์ที่มีใบรับรองตรวจสอบสุขภาพของโค-กระบือเหล่านั้นและรับรองผลการตรวจสุขภาพเหล่านั้นให้ ถึงจะเข้าร่วมโครงการกับโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ (ธคก.) ได้ เราจึงเลือกที่จะซื้อโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์จังหวัดปทุมธานี การที่เราคัดเลือกคุณภาพของโค-กระบือ ไม่ใช่ว่าเราเลือกที่จะให้ชีวิตนะคะ แต่ในบางครั้งโค-กระบือ บางกลุ่มที่ถูกส่งไปโรงฆ่าสัตวนั้น ก็เป็นโค-กระบือที่ป่วยเป็นโรค หรือชราภาพแล้วหากเราไถ่ชีวิตที่ใกล้สิ้นอายุขัยเหล่านั้นมาแล้วไม่นานโค-กระบือเหล่านั้นก็จะตกไปเป็นภาระให้กับเกษตรกรที่เราส่งมอบให้ ดิฉันจึงคิดว่าหากเราจะให้ชีวิตแล้ว เราควรให้ชีวิต 1 ชีวิต ที่มันสามารถไปต่อยอดของอีก 1 ชีวิตได้ น่าจะดีกว่า 2. หลังจากที่เราเลือกแล้วว่าเราจะไถ่ชีวิตโค-กระบือจากที่ไหน คำถามต่อมาคือ แล้วเราจะส่งมอบให้ใคร? แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า คนที่เราส่งมอบให้นั้นเดือดร้อนจริงหรือเปล่า? แล้วเค้าจะเอาโค-กระบือของเราไปฆ่า รึเปล่า? ดิฉันจึงทำหนังสือไปที่โครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ (ธคก.) เพื่อขออนุเคราะห์ข้อมูลเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ (ธคก.) แล้ว เนื่องจาก ธคก. มีการคัดเลือกเกษตรกรยากจนที่มีคุณสมบัติดังนี้ 1. เป็นเกษตรกรมีสัญชาติไทยอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ขึ้นไป 2. มีอาชีพทำนา ทำไร่ ทำสวน หรือเลี้ยงสัตว์ 3. มีความประพฤติดี และยินดีให้ความร่วมมือกับทางราชการ 4. ยังไม่เคยได้รับโคหรือกระบือจากโครงการอื่นๆ มาก่อน 5. มีความเหมาะสมและสามารถที่จะดูแลเลี้ยงโค-กระบือได้ 6. มีรายได้ไม่เกินเกณฑ์ จปฐ.1 (ฉบับที่เป็นปัจจุบัน) เกษตรกรที่ได้รับคัดเลือกจะต้องทำสัญญากับกรมปศุสัตว์ และจะต้องมีผู้ค้ำประกัน และสัญญาจะตกทอดแก่ทายาท ที่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีผู้ทำสัญญาถึงแก่กรรม ดังนั้นเราก็จะได้เกษตรกรที่มีความต้องการและมีความจำเป็นต้องใช้โค-กระบือ เพราะปัจจุบันเกษตรกรบางคนมีความคิดแต่ จะใช้เครื่องกลไกเป็น เครื่องทุ่นแรงในกิจการเกษตร แต่เมื่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงแพงขึ้นความก้าวหน้าในการใช้เครื่องกลไกก็ลดน้อยลงโดยเฉพาะกับกลุ่มเกษตรกรที่มีรายได้น้อยอยู่แล้ว จำเป็นต้องหันมาพึ่งแรงงานจากสัตว์ที่เคยใช้อยู่ก่อนเมื่อหันกลับมาก็ปรากฏว่ามีปัญหามากเพราะชาวนาไม่มีเงินซื้อโคและกระบือมาเลี้ยงเพื่อใช้งาน โดยเราได้ติดต่อไปที่เกษตรกรกลุ่มดังกล่าว ให้เดินทางมาทำพิธีรับมอบที่วัดคงคาวง(อ้ายเขียว) จ.นครศรีธรรมราช เพื่อทำพิธีสาบานว่าจะนำโค-กระบือที่ได้รับไปเลี้ยงไว้เพื่องานเกษตรกรรมตามหน้าที่ของมันและจะไม่ฆ่าจนกว่ามันจะสิ้นอายุไขด้วยตัวของมันเอง 3. เพื่อนก็ถามกันต่อมาว่า ทำไมต้องไปที่วัดคงคาวง(อ้ายเขียว) จ.นครศรีธรรมราช ? ไกลจัง ข้อมูลเบื้องต้นของ วัดอ้าย เขียว (คงคาวง) ตั้งอยู่หมู่ 3 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2420 ได้รับวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ.2497 เหตุที่ชื่อว่าวัด คงคาวง เพราะอยู่ใกล้โขงเขาจดคลองในเขียวหรือ อ้ายเขียว ซึ่งไหลอ้อมเป็นวงรอบบริเวณที่ตั้งของวัด หมายถึง มีลำคลองไหลผ่าน ล้อมรอบเป็นวง จึงเรียกว่า วัดคงคาวง และ มีลำธารไหลผ่านตอนกลาง รวมถึงมีเหวลึกแบ่งเขตวัดเป็น 2 ส่วน ภายในพระอุโบสถวัดคงคาวง (อ้ายเขียว) ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์พระพุทธสิหิงค์ และเนื่องจากว่าเวลาโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือส่วนใหญ่ไปทำพิธีส่งมอบให้เกษตรกรก็มักจะเป็นทางภาคกลาง ภาคอีสาน ซึ่งที่จริงประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม และการทำไร่-ทำนาที่จริงปรากฏการทำขึ้นทุกภาคของประเทศไทย รวมถึงภาคใต้ด้วยและภาคใต้เองก็มีเกษตรกรที่ยากจนเหมือนกันซึ่งอาจจะไม่ได้อยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชอย่างเดียว ในจังหวัดใกล้เคียงก็มีด้วย เราจึงให้เกษตรกรมาทำพิธีกันที่วัดคงคาวง(อ้ายเขียว) จ.นครศรีธรรมราช และเราก็จะให้รถยนต์ของเพื่อนๆกันที่ร่วมกันโครงการนี้นำไปส่งให้เกษตรกรถึงบ้านเลยค่ะ งานนี้เหนื่อยกันแน่ล่ะค่ะ แต่เราและเพื่อนๆเชื่อกันว่า หากเราทำสำเร็จทุกชีวิตที่มีส่วนเกี่ยวข้องย่อมอิ่มเอมใจ ทั้งความสุขที่ได้ช่วยชีวิต ความสุขที่ได้มีชีวิตต่อ แล้วความสุขที่มีคนมาช่วยต่อชีวิตให้ 4. อานิสงค์ของการ ปล่อยนก ปล่อยปลา หรือให้ทานชีวิตสัตว์อื่น ๆ เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือ ตามการบันทึกหรือเล่าต่อกันมาในคัมภีร์พระพุทธศาสนา ในเรื่องของสามเณร ซึ่งเป็นศิษย์ในสำนักของพระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า ซึ่งสามเณรท่านนี้ได้รับการพยากรณ์จากพระสารีบุตรว่า ' ชะตาถึงฆาต' จะต้องมรณภาพ ภายใน ๗ วันขอให้ปลงอายุสังขารเสีย พอสามเณรได้ฟังดังนั้น ในฐานะนักปฎิบัติธรรม ท่านก็มิได้สะทกสะท้าน หรืออาลัยในชีวิตแต่อย่างใด ไหน ๆ ก็จะละสังขารแล้ว ก็ใคร่จะขออำลาพระอาจารย์ไปโปรดโยมบิดา มารดาสัก ๓ วัน เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ก็ออกเดินทาง กะว่าจะใช้เวลาไปกลับให้ทันก่อนกำหนด เพื่อฟังธรรมจากพระสารีบุตรเป็นครั้งสุดท้าย ในระหว่างการเดินทาง เนื่องจากในช่วงเวลานั้นเป็นหน้าแล้ง น้ำในลำธาร ห้วยหนอง เหือดแห้ง สามเณรได้เห็นปลาน้อย จำนวนหนึ่ง ดิ้นกระแด่ว ๆ ใกล้จะถึงเวลาตายอยู่ในบ่อน้ำที่กำลังแห้งเหือด ด้วยจิตที่เป็นเมตตา ท่านได้นำจีวรช้อนตักปลาฝูงนั้น ไปปล่อยในแม่น้ำสายใหญ่ แล้วจึงเดินทางต่อไป หลังจากโปรดโยมบิดา มารดา และเดินทางกลับมายังสำนักแล้ว พอครบกำหนดตามที่พระสารีบุตรพยากรณ์เอาไว้ ก็เข้าไปกราบลาเพื่อขอฟังธรรมก่อนละสังขาร แต่พระสารีบุตรกลับไม่แสดงธรรมโปรด และได้กล่าวกับสามเณรว่า 'กรรมดีที่เณรได้ช่วยชีวิตฝูงปลา ซึ่งบังเอิญเป็นเจ้ากรรมของเณรแต่อดีตชาติ ประกอบกับบุญกุศลที่เณรได้ทำไว้ด้วยการถือเพศบรรพชิตในปัจจุบัน ทำให้เจ้ากรรมนายเวรเกิดความปีติ ทั้งสองฝ่ายได้ยินยอมให้กรรมหนักถึงตายของเณรหลุดพ้น ด้วยการ 'อโหสิกรรม' ต่อกัน เณรได้พ้นกรรมบัดนี้แล้ว' จากเรื่องดังกล่าว จึงทำให้มีการทำบุญสะเดาะเคราะห์ด้วยการปล่อยนก ปล่อยปลา หรือให้ทานชีวิตสัตว์อื่น ๆ เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือ ฯลฯ ในพุทธศาสนา แต่นั้นมา ดังนั้นการแก้กรรมเมื่อชะตาถึงฆาต โหราจารย์ก็จะแนะนำให้แก้กรรมด้วยการให้ทานชีวิตสัตว์เป็นดีที่สุด การไถ่ชีวิตโค-กระบือนั้น เริ่มต้นเป็นการตั้งความเห็นในเมตตาจิตที่เราจะกระทำให้ถูกต้องและเกิดประโยชน์ คือจุดประสงค์ในการร่วมบุญ ไถ่ชีวิตสัตว์ที่กำลังจะถูกเขานำไปฆ่าตายนั้น ก็เพราะว่า เราปรารถนาจะหยิบยื่นความช่วยเหลือตามกำลังของเรา เพื่อให้เขาได้มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยจากอันตรายที่จะทำลายเขาถึงแก่ชีวิต ด้วยอานิสงค์ผลบุญในด้านการช่วยเหลือชีวิตคนและสัตว์อื่นให้รอดพ้นจากความตายนั้น บุญการต่อชีวิตนี้จัดว่าเป็นบุญใหญ่ และจะส่งผลให้บุคคลที่ได้ กระทำได้รอดพ้นจากกรรม ที่เรียกว่าชะตาขาดหรือหมดอายุขัยก่อนเวลาอันควร หรือการเจ็บป่วยด้วยโรคกรรมก็ตาม เมื่อเป็นดังนี้แล้ว หากบุคคลใด ไม่อยากมีโรคภัยเบียดเบียน หรือลำบากยามแก่เฒ่า ย่อมสามารถฉลาด ในการตั้งคำอธิษฐาน ดังนี้ ขอบุญที่ได้กระทำการร่วมปล่อยชีวิตสัตว์เหล่านี้ ขอให้เจ้ากรรมนายเวร ได้โปรดโมทนาและโปรดอโหสิกรรมให้แก่ ข้าพเจ้า และท่านพญายามราชได้โปรดโมทนาบุญและเป็นสักขีพยานบุญในแก่ข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยส่งผล ให้ข้าพเจ้า ชื่อ....นามสกุล.... ได้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปลอดภัยจากโรคระบาด โรคร้ายแรง โรคชรา โรคเรื้อรัง ที่จะทำให้เกิดทุกขเวทนาแก่ร่างกายและจิตใจ หากมีวิบากกรรมใดที่จะมาตัดรอนชีวิต และร่างกายข้าพเจ้าก่อนอายุขัย ขอผลบุญนี้จงรักษาข้าพเจ้าให้แคล้วคลาดผ่านพ้นวิบากกรรมใดๆไปอย่างราบรื่น รวดเร็วและง่ายดายในฉับพลันทันที และขอบุญนี้จงจัดสรรให้อายุขัยของข้าพเจ้าเหมาะสมแก่กายสังขาร โดยให้สามารถมีชีวิตดำรงอยู่ด้วยสุขภาพกายใจแข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระแก่บุคคลอื่น หากแม้เมื่อถึงคราวอายุขัยที่จะต้องดับสิ้นไป ก็ขอให้บุญนี้จงเข้ามาประคับประครองกายใจนี้ ให้สามารถละสังขารดับชีวิตในภพชาตินี้ ด้วยอาการสงบ ไม่ทุกข์ร้อน ไม่เป็นกังวล และไม่ต้องทนทุกข์ด้วยการเจ็บป่วยเรื้อรังใดๆ ขอบุญทั้งหมดจงมารวมตัว ส่งผลดลบันดานให้ข้าพเจ้าละอัตภาพร่างกายในบั้นปลาย อย่างมีความสุข สงบ เข้าถึงสุคติภูมิเป็นที่ไป สัจจะ สัจจัง อธิษฐานมิ ขอให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าเป็นจริงทุกประการ สาธุ นิพพานะปัจจะโยโหตุ ขอให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เทอญคำ-แผ่เมตตา สัพเพ สัตตา อเวรา โหนตุ สัพเพ สัตตา อัพยาปัชฌา โหนตุ สัพเพ สัตตา อนีฆา โหนตุ สัพเพ สัตตา สุขี อัตตานัง ปริหรันตุ สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทจองเวรต่อกันและกันเลย สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กลายทุกข์ใจเลย สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นสุข เป็นสุขเถิด จงเป็นผู้มีความสุขรักษาตนให้พันทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด ด้วยบุญนี้ ขอให้ข้าพเจ้า หลุดพ้นจากวิบากกรรม วิบากมาร บาปทุกชนิด ให้สิ้นสรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงอายุขัยยืนยาว ให้ความบริสุทธิ์ กาย วาจา ใจ สมบูรณ์ด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ทิพยสมบัติ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ 5. การบริจาคเพื่อร่วมกันช่วยชีวิตโค-กระบือที่กำลังจะถูกฆ่าที่โรงฆ่าสัตว์ หากคุณเคยเห็น ......เวลาเขาเอาวัว ควายใส่รถบรรทุกไปเข้าโรงฆ่าสัตว์เพื่อเชือดทำเป็นอาหาร...หรือบางคนเขาก็จะไล่มาเป็นฝูงก็ตาม..ถ้าคุณคงสังเกตเห็น คุณจะเห็นมันน้ำตาไหลพรากแต่ก็เดินตามที่เขาไล่ต้อยๆเข้าโรงฆ่าสัตว์ก็เพราะมันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรนี่แหละ..แต่ก็เคยมีบ่อยๆนะครับที่ดูเหมือนว่ามันรู้ว่าเขากำลังจะต้อนมันไปฆ่า...มันจะสะบัดดิ้นรนจนหลุดครับ..แล้วก็วิ่งกระเซอะกระเซิงหนีตายอาละวาดชนโน่นขวิดนี่จนบางครั้งต้องตามตำรวจมายิงให้ตายก็มี.... หากท่านก็เป็นคนนึงที่มีใจกุศลและมีภาวะทางการเงินที่พอจะทำได้โดยไม่ลำบากตัว หรือผู้ที่อยากจะไถ่ชีวิตโค กระบือ สามารถร่วมซื้อโค-กระบือ กับเราได้ ราคาตัวละ 15,000 บาท จะซื้อกี่ตัวก็ตามกำลังทรัพย์ จะเงินแค่หลัก 10 หลัก 100 เมื่อเราเอามารวมกันมันก็ซื้อได้หลายตัวเหมือนกัน ..มันก็เหมือนกับปล่อยนกปล่อยปลานั่นแหละครับ..เพียงแต่มันเป็นสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่และราคาต่างกันเท่านั้นเอง.... ซึ่งตั้งแต่ดิฉันเริ่มบอกต่อเรื่องนี้ออกไป ทั้งที่ทำงาน ในหมู่บ้าน และกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่น ตอนนี้ดิฉันได้แล้วประมาณ 3 ตัว ตัวดิฉันเองตั้งใจจะทำเองด้วย 1 ตัว และอยากจะทำให้ได้เยอะที่สุด บอกต่อเผื่อมีผู้ที่สนใจทำเหมือนที่ดิฉันตั้งใจทำอยู่ตอนนี้ ท่านสามารถบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารที่ส่งมาด้วยนี้ จำเป็นจริงๆที่ต้องแจ้งเป็นบัญชีบุคคล เนื่องจากลองปรึกษาทางธนาคารแล้วเราไม่สามารถเปิดบัญชีเป็นนามแฝงได้ เอาเป็นว่าแล้วแต่จิตเมตตาของท่านในการพิจารณาการทำกุศลครั้งนี้นะคะ ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นายบุญเลิศ เลี้ยงรักษา บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 059-280630-2 สาขา เพลินจิต ธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี นายบุญเลิศ เลี้ยงรักษา บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 088-032349-8 สาขาย่อยเดอะมอล์ลงามวงศ์วาน ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี นายบุญเลิศ เลี้ยงรักษา บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 493-0-21327-4 สาขาย่อยเดอะมอล์ลงามวงศ์วาน ธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี นางวัชรี เลี้ยงรักษา บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก เลขที่ 020016842906 ...............................................................ผู้ให้ชีวิตย่อมได้ชีวิต…………………………………..……….. 6. กำหนดการ โดยคราวๆ เราจะรวบรวมเงินบริจาดทั้งหมดในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 ได้เท่าไหร่เราจะทำการซื้อโค-กระบือตามยอดนั้น และทำพิธีที่วัดวัดคงคาวง(อ้ายเขียว) จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 5 ธันวาคม 2553 เพื่อร่วมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม หากผู้ที่สนใจไปร่วมงานที่วัดด้วยกัน สามารถแสดงความจำนงค์กับเราได้นะคะ เนื่องจากว่าผู้ที่สนใจในหมู่บ้านที่ดิฉันอยู่ (หมู่บ้านประชานิเวิศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.) มีผู้สนใจไปกันหลายคน เรารวมกันเช่ารถตู้สำหรับเดินทางไป หรือหากจะเดินทางไปเอง หรืออยู่ในบริเวณนั่นอยู่แล้วสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและขอกำหนดการอย่างเป็นทางการได้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2553 เป็นต้นไป ได้ที่ผู้ประสานงานนะคะ บุญเลิศ-วัชรี เลี้ยงรักษา เบอร์โทรศัพท์ 081-927-8935,081-827-8936 E-mail : l.watcharee @ hotmail.com


ร้านค้าออนไลน์ , ขายของออนไลน์

SiamShop.com ผู้ให้บริการด้าน ร้านค้าออนไลน์ เปิดร้านค้าออนไลน์

โดยทีมงานที่มีประสบการณ์การทำเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์กว่า 6 ปี
© Copyright 2024 All right reserved. SiamShop.com

ติดต่อเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ที่ [email protected]

เวลาทำการ : จ-ศ 8:30-17:30 น.