เถ้าลอย(Fly ash)

รายละเอียดสินค้า

การใช้ประโยชน์จากเถ้าลอย อัตราและวิธีการใส่เถ้าลอยที่เหมาะสมต่อดินและพืชที่ปลูกในดิน คือ 2 ตัน/ไร่ ด้วยปัจจัยการประเมินความเป็นประโยชน์จาก ประโยชน์ของธาตุอาหารที่มีความจำเป็น (Essential elements) โดยเฉพาะซีลีเนียม จากการเติมเถ้าลอยลงสู่ดินเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพพืช บนพื้นฐานความสัมพันธ์กับปัจจัยอื่น โดยเฉพาะความเป็นกรด-ด่าง(pH)ของดิน คำนึงถึงความต้องการปริมาณธาตุอาหารของพืชแต่ละชนิด คำนึงถึงความสามารถของดินที่จะรองรับธาตุอาหารดังกล่าวได้ คำนึงถึงการจัดการ/ควบคุมปริมาณธาตุพิษ (Toxic elements)ในเถ้าลอย ให้มีอยู่ในดิน/น้ำ/พืช/สัตว์ ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความเป็นพิษ เพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อการนำไปใช้ประโยชน์ ที่เกิดประโยชน์สูงสุดและปลอดภัยจากการถ่ายทอดสารพิษตามลูกโซ่อาหาร ในลักษณะทวีความเป็นพิษ (Bio-magnification) การนำเถ้าลอยมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตร น่าจะมุ่งเน้นไปที่ชนิดและปริมาณแร่ธาตุที่มีอยู่ในเถ้าลอย มากกว่าการใช้เป็นสารปรับความเป็นกรด-ด่างให้กับดิน เพราะอำนาจการทำให้เป็นกลาง (Neutralizing value) ของเถ้าลอยมีต่ำ ดังได้อธิบายแล้วปัจจัยที่ต้องนำมาใช้ในการประเมินความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารในเถ้าลอยต่อดิน-พืช-สัตว์ อยู่บนพื้นฐานของข้อจำกัดที่มาจากเถ้าลอยคือ ขนาดซึ่งมีผลตรงต่อลักษณะทางกายภาพของดิน ปริมาณของโลหะหนักซึ่งมีผลตรงต่อคุณภาพของพืช-สัตว์ เช่น ซีลิเนียมและผลกระทบทางลบต่อดิน-พืช-สัตว์ หากการจัดการเพื่อควบคุมปริมาณที่ให้มีในดิน-พืชไม่เหมาะสม รวมทั้งต้องคำนึงถึงความต้องการธาตุอาหารของพืชซึ่งแตกต่างตามชนิดพืช สำหรับการศึกษาวิจัยครั้งนี้ได้พิจารณาจากความเป็นกรด-ด่างของดิน ความสามารถของดินที่จะรองรับ/ดูดซับ ความต้องการธาตุอาหารของพืช การจัดการ/ควบคุมธาตุพิษในเถ้าลอยพบว่า การเติมเถ้าลอยลงสู่ดินสูงสุดน่าจะเป็น 2 ตัน/ไร่